วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558
ปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาสารัตถนิยม- หลักการคือ หนทางแห่งการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางสังคม
- กำหนดโดย วิลเลี่ยม แบกเลย์ , ไอแซค แดนเดล และ เฮอร์เมน-เชื่อว่า ผู้เรียน คือ ดวงจิตเล็กๆ เปรียบได้เป็นผู้รับ ดังนั้นครูจึงมีความสำคัญ โดยกระทำเป็นตัวอย่างหรือผู้ให้
- มาจากการผสานระหว่าง"ปรัชญาจิตนิยม"กับ"ปรัชญาสัจนิยม"
โดยปรัชญาจิตนิยมนั้นมีความเชื่อว่า การศึกษา คือ เครื่องมือในการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม ซึ่งหลักสูตรการศึกษาจึงประกอบด้วย ความรู้, ทักษะ, เจตคติ, ค่านิยม และวัฒนธรรม
ส่วนปรัชญาสัจนิยมนั้นมีความเชื่อว่า การศึกษา คือ เครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้และความจริงทางธรรมชาติ ซึ่งหลักสูตรการศึกษาจึงประกอบด้วย ความรู้, ความจริง, และการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับกฏเกณฑ์และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ
- จุดมุ่งหมายของการศึกษา
1. ถ่ายทอดมรดกทางปัญญาและสังคม
2. พัฒนาสติปัญญาและวินัยของมนุษย์ให้เป็นผู้เฉลียวฉลาด
- การนำไปใช้
ประถมศึกษา > สอนอ่าน/เขียน/คิดเลข โดยพื้นฐานทั่วไป
มัธยมศึกษา > สอนเข้มข้นขึ้น
อุดมศึกษา > สอนเน้นเฉพาะด้านที่ผู้เรียนได้เลือกไว้
- ข้อดี
มีวินัย
มีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีบท
-ข้อเสีย
มีการกำหนดกฏเกณฑ์มากเกินไป
ปรัชญานิรันตรนิยม- หลักการเชื่อว่า "หนทางที่ย้อนกลับไปสู่วัฒนธรรมอันดีงามในอดีต"
- บาทหลวง เซนต์ โทมัส อะไควนัส ดัดแปลงมาจากปรัชญาการศึกษานิรันตรนิยมของอริสโตเติ้ล ซึ่ง โรเบิร์ต ฮัทชิน , มอร์ติเมอร์ แอดเลอร์ และ เซอร์ริชาร์ด ลิฟวิ่งสโตน ได้รวบรวมหลักการและให้กำเนิดปรัชญานิรันตรนิยมในปี ค.ศ. 1929
- มีพื้นฐานความเชื่อมาจาก กลุ่มสัจนิยมเชิงเหตุผล เป็นความเชื่อทางฝ่ายศาสนาและฆารวาสมาผสมกัน
- ใช้ความคิดเชองเหตุผลมาตัดสินใจสิ่งต่างๆ
- สาระสำคัญ
เน้นเรื่องคุณงามความดี เน้นระเบียบวินัย
ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง
ใช้วิธีการบรรยายในการรับรู้ จดจำ
ใช้การออกกำลังกายในการสร้างระเบียบวินัยแก่ผู้เรียน
ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม- หลักการเชื่อว่า "หนทางก้าวหน้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม"
- ริเริ่มแนวคิดโดย ยัคส์ รุสโซ , จอห์นเฮนรี่ เปสตาลอสซี่ และ เฟรด เดอริค โฟรเบล- อาศัยหลักการของปรัชญาการศึกษาสาขาประสบการณ์นิยม พื้นฐานมาจากปรัชญากลุ่มเสรีนิยม
- เน้นประสบการณ์ มุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของผู้เรียนด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
- ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
- ครูเป็นเพียงผู้แนะนำ มีหน้าที่จัดหาประสบการณ์ที่ดีและเหมาะสมกับผู้เรียน
- ใช้วิธีสอนแบบการแก้ปัญหาตามหลักวิทยาศาสตร์
ปรัญชาปฏิรูปนิยม- อาศัยแนวความคิดของปรัชญาปฏิบัติ และผนวกความคิดของปรัชญาพิพัฒนาการเข้าด้วยกัน
- หลักการเชื่อว่า "หนทางปฏิรูปเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่" ยึดถือการศึกษาเพื่อปฏิรูปสังคม
- ส่งเสริมให้โรงเรียนมีบทบาทในการปฏิรูปสังคม สอนให้มีการอภิปรายกลุ่ม
- การศึกษาที่เป็นหลักของการพัฒนาคือ สร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรม
พุทธปรัชญา
- มาจากพระพุทธศาสนา
- หมายถึง การศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต
- มุ่งลดโลภ โกรธ หลง และพัฒนาความรู้ ความจำ นิสัย และอื่นๆ
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558
วิวัฒนาการการศึกษาไทย ตอนที่ 1
วิวัฒนาการการศึกษาไทย
สมัยโบราณ
- ศูนย์กลางของการศึกษา คือ บ้านและวัด
- ผู้ชาย จะบวชเรียน
ผู้หญิง จะเรียนเย็บปักถักร้อย
สมัยสุโขทัย
- ผู้ชาย บวชเป็นพระ
ผู้หญิง จะเรียนเกี่ยวกับเรื่องของกุลสตรี
- สถานที่เรียน
๑. บ้าน
๒. วัด(สำหรับผู้ชาย) / หอเรือน(สำหรับผู้หญิง)
๓. สำนักพระราชบัณฑิต(สำหรับผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์/ชนชั้นสูง)
๔. พระราชวัง(เชื่อพระวงศ์)
สมัยอยุธยา
- ทหาร เรียนเกี่ยวกับการใช้อาวุธ.การขี่ช้าง/ม้า
- พลเรือน ชาย จะบวชเรียนพระธรรม และเรียนเกี่ยวเลข,โหราศาสตร์ และมีความเชื่อที่ว่า"หากไม่ยอมบวชเรียนจะไม่ได้เข้ารับราชการ"
หญิง เรียนเกี่ยวกับเย็บปักถักร้อย การทำอาหาร และการแกะสลัก
- มีการสร้างหนังสือ"จินดามณี"
- มีการตั้งโรงเรียนมิชชันนารีเป็นครั้งแรก
สมัยธนบุรี
- มีการเกิดสงครามบ่อย แต่ก็ยังมีการพัฒนาในเรื่องการศึกษา
- ศูนย์กลางของการศึกษา คือ วัด โดยมีการสอนหนังสือจินดามณีโดยพระสงฆ์
- พ่อแม่จะสอนอาชีพของตนแก่ลูก
- ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ แต่จะให้เรียนเกี่ยวกับกุลสตรี
สมัยรัตนโกสินทร์
- ผู้ชาย จะเรียนที่วัด เกี่ยวกับการอ่าน การเขียน และหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
- ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียน แต่มีผู็หญิงบางส่วนที่อ่านออก เขียนได้
- ชนชั้นสูง จะเรียนเกี่ยวกับปรัชญาและเครื่องกล
สมัยใหม่
- เริ่มจาก รัชกาลที่5 มีการให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก เริ่มมีการนำการศึกษาตะวันตกมาปรับใช้ และมีการเลิกทาสเพื่อให้สิทธิในการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ที่ว่า
"เจ้านายราชตระกูลตั้แต่ลูกฉันเป็นต้นไป ตลอดจนราษฎรที่ต่ำสุด จะได้มีโอกาสเล่าเรียนได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่ เพราะฉะนั้น จึงขอบอกได้ว่าการเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานั้น จะเป็นข้อสำคัญอันดับหนึ่ง ซึ่งฉันจะจัดให้เจริญขึ้นจงได้"
- พ.ศ. 2427 มีการจัดตั้ง"โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ"
- ในปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ทำให้ขอบเขตของการศึกษาเล่าเรียนทีเพิ่มมากขึ้น สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กห่างไกลจากการท่องจำมากขึ้นด้วย และมีการติวเตอร์กันมากขึ้น
- "You are what you learn"
- "Teach less learn more"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)